คลอรีนผง คลอรีนเม็ด

คลอรีนผง คลอรีนเม็ด

อาร์ เอช เค กรุ๊ป จำหน่ายคลอรีน 65% 70% 90%

คุณสมบัติของคลอรีน

คลอรีนใช้เป็นสารฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ของขบวนการผลิต น้ำดื่ม-น้ำ รวมถึงทั้งใช้ในการบำบัดน้ำเสียและนิยมใช้ฆ่าเชื้อในสระว่ายน้ำ คลอรีนเป็นสารที่มีกลิ่น และ มี pH เป็นด่าง มีฤทธิ์กัดกร่อนสูง

คลอรีนผง

ชนิดของคลอรีนและการใช้งาน

คลอรีน เม็ด ผง 65% 70% สำหรับผลิตน้ำประปา ชื่อทางเคมีคือ Calcium Hypochlorite มี 2 แบบ คือ เป็นผงละเอียดสีขาว และเป็นเม็ดคล้ายเม็ดสาคูสีขาว

คลอรีนผง 90% สามารถใช้ฆ่าเชื้อโรคในสระว่ายน้ำ ชื่อทางเคมี Trichloroisocyanuric Acid มี 2 แบบ คือ เป็นผงละเอียดสีขาว และเป็นเม็ดคล้ายเม็ดสาคูสีขาว 

คลอรีนเป็นสารเคมีที่อยู่คู่กับชีวิตผู้คนมาช้านาน เพราะแม้แต่น้ำที่เราใช้กันในครัวเรือน หรือน้ำในสระว่ายน้ำ ก็ต้องใส่คลอรีนเพื่อทำการฆ่าเชื้อทั้งสิ้น เพราะคลอรีนนั้นสามารถฆ่าเชื้อโรคต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพถึง 99% ทั้งเชื้อแบคทีเรียและเชื้อจุลินทรีย์ อีกทั้งยังสามารถฆ่าเชื้ออิโคไลและไวรัสได้ (แต่ไม่สามารถฆ่าเชื้อโปรโตซัวจำพวก Giardia และไวรัสบางชนิด) โดยคลอรีนจะทิ้งสารตกค้างไว้ในปริมาณที่น้อย จึงค่อนข้างปลอดภัยในการใช้งาน โดยคลอรีนจะทิ้งไว้เพียงรสและกลิ่นในน้ำเท่านั้น 

นอกจากจะมีการนำคลอรีนไปใช้ในการอุปโภคบริโภคแล้ว ยังมีการนำคลอรีนไปใช้ในภาคอุตสาหกรรมด้วยเช่นกัน ทั้งในอุตสาหกรรมผลิตกระดาษ โดยใช้เป็นสารฟอกกระดาษให้ขาว ใช้ในการผลิตสีผสมอาหาร การผลิตพลาสติก ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ใช้เป็นส่วนผสมของน้ำยาซักผ้าขาว ใช้ผสมน้ำทำความสะอาดพื้นอาคารและเวชภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อฆ่าเชื้อ หรือใช้ในการเกษตร เช่น บ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ 

  tel:02-394-0222

สำหรับการใช้งานคลอรีนเพื่อฆ่าเชื้อนั้น สามารถใช้งานได้ 3 รูปแบบดังนี้ 

  1. การใช้งานคลอรีนในรูปแบบก๊าซ
    เป็นคลอรีนที่อยู่ในสถานะก๊าซ (Chlorine Gas) มีสีเหลืองอมเขียว มีกลิ่นฉุน และมีความหนาแน่นประมาณ 2.5 เท่าของอากาศ มีคุณสมบัติไม่ติดไฟ สามารถนำไปใช้งานด้วยการอัดก๊าซคลอรีนเข้าไปในน้ำ เพื่อทำการฆ่าเชื้อ

    นอกจากนี้ก๊าซคลอรีนยังมักถูกนำไปใช้เป็นสารฟอกขาวกระดาษ ใช้ผลิตสารกำจัดศัตรูพืช สารป้องกันการเย็นตัวของน็อตและเครื่องยนต์ แต่ทั้งนี้ต้องใช้ก๊าซคลอรีนอย่างระมัดระวัง เพราะก๊าซคลอรีนที่มีปริมาณเข้มข้น จะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง ระบบทางเดินหายใจ เยื่อบุตา และช่องปากได้

  2. การใช้งานคลอรีนในรูปแบบน้ำ 
    เป็นคลอรีนที่อยู่ในสถานะสารละลาย (Liquid Chlorine) ซึ่งคลอรีนน้ำส่วนใหญ่ในประเทศจะมีความเข้นข้น 10% ความหนาแน่น 1.2 เท่าของน้ำ มักนำไปใช้ในการผลิตน้ำประปาขนาดเล็ก ระบบปรับปรุงคุณภาพน้ำ ระบบบำบัดน้ำเสีย และใช้ในการฆ่าเชื้อสิ่งต่าง ๆ เช่น อุปกรณ์ทางการแพทย์ ท่อระบายน้ำ มักนิยมใช้ในรูปแบบของโซเดียมไฮโปรคลอไรท์ (NaOCI) ซึ่งเป็นสารละลายคลอรีนที่มีสีเขียวอมเหลือง แต่คลอรีนในรูปแบบสารละลายนี้ ความสามารถในการใช้งานจะขึ้นอยู่กับความเข้นข้นของคลอรีนในตัวผลิตภัณฑ์ ซึ่งหากมีปริมาณความเข้มข้นของคลอรีนสูง การสลายตัวก็จะสูงตามไปด้วย นอกจากนี้ค่า pH ของน้ำที่มากกว่า 8 รวมถึงอุณหภูมิที่สูง และแสงแดดก็ทำให้โซเดียมไฮโปคลอไรท์สลายตัวได้ง่ายเช่นกัน ดังนั้นต้องควบคุมปัจจัยเหล่านี้ให้ได้ตามเกณฑ์ จึงจะช่วยให้สารละลายคลอรีนคงประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรคได้ตามปกติ


  3. การใช้งานคลอรีนในรูปแบบของแข็ง 
    เป็นคลอรีนที่อยู่ในรูปของแข็ง (Solid Chlorine) ซึ่งมีให้ใช้งานทั้งในรูปแบบเม็ดและแบบผง มีลักษณะเป็นสีขาว โดยมีสูตรเคมีคือ แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ ( Calcium Hypochlorite หรือ Ca(OCI)2) โดยแบบที่นิยมนำมาใช้กับสระว่ายน้ำจะเป็นคลอรีน 70% กับ 90% ของน้ำหนักผลิตภัณฑ์ เวลาใช้งานจะต้องนำมาละลายน้ำก่อน มักนำมาใช้กับการฆ่าเชื้อในสระว่ายน้ำ หรือใช้ในบางพื้นที่ที่มีการสูบน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติมาใช้ ก็จะนิยมนำคลอรีนชนิดผงมาใส่ลงในน้ำ และรอจนกระทั่งคลอรีนทำปฏิกิริยาฆ่าเชื้อโรคแล้ว จึงจะนำน้ำนั้นมาใช้ต่อไป


    โดยการนำคลอรีนมาใช้ในแต่ละวัตถุประสงค์ จะมีปริมาณความเข้มข้นที่ควรใช้ และระยะเวลาที่ต้องทิ้งไว้ก่อนใช้งานแตกต่างกันออกไป ดังนี้
    • การใช้คลอรีนในระบบน้ำประปา ควรมีความเข้มข้นของคลอรีนอยู่ที่ 0.5 ppm. และต้องทิ้งไว้ 30 นาทีก่อนจ่ายน้ำเข้าสู่ระบบประปา
    • การใช้คลอรีนฆ่าเชื้อในสระว่ายน้ำ ต้องมีความเข้มข้น 0.6 - 1 ppm. และต้องรักษาระดับความเข้มข้นของคลอรีนให้คงที่ รวมถึงรักษาค่า pH ของน้ำในสระไว้ให้อยู่ที่ 7.2 - 7.8 เสมอ เพื่อไม่ให้คลอรีนสลายตัว ซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรคลดลง (ค่า pH ของน้ำไม่ควรเกิน 8 เพราะจะทำคลอรีนสลายตัว)
    • การใช้คลอรีนลดค่า BOD ในน้ำเสีย (ค่าความต้องการออกซิเจนทางชีวเคมี หรือ Biological Oxygen Demand) ควรใช้คลอรีนที่มีความเข้มข้น 0.5 ppm. และทิ้งไว้ 15 นาที จึงจะสามารถลดค่า BOD ได้ประมาณ 15 - 30%
    • การใช้คลอรีนในการทำความสะอาดอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น อุปกรณ์การแพทย์ ควรใช้คลอรีนที่มีความเข้มข้นอยู่ที่ 200 - 300 ppm. โดยแช่อุปกรณ์ในน้ำผสมคลอรีนทิ้งไว้ 5 - 10 นาที แล้วล้างออก
    • การใช้คลอรีนฆ่าเชื้อในบ่อเลี้ยงปลาหรือบ่อเลี้ยงกุ้ง ควรใช้คลอรีนที่มีความเข้มข้นอยู่ที่ 20 - 30 ppm. แล้วทิ้งไว้ประมาณ 5 - 7 วัน จนคลอรีนสลายตัวไปหมด จึงจะนำกุ้งหรือปลาลงไปในบ่อเลี้ยงได้
    • การใช้คลอรีนฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ต้องใช้คลอรีนที่มีความเข้มข้น 100 - 125 ppm. และทิ้งไว้ 10 นาที
    • การใช้คลอรีนฆ่าเชื้อรา ต้องใช้คลอรีนที่มีความเข้มข้น 100 ppm. และทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง
    • การใช้คลอรีนฆ่าเชื้อไวรัส ต้องใช้คลอรีนที่มีความเข้มข้น 500 ppm. และทิ้งไว้ 10 นาที 

อย่างไรก็ตามการใช้คลอรีนในการฆ่าเชื้อโรค หรือใช้ในการปรับปรุงคุณภาพน้ำนั้น มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ดังต่อไปนี้

ข้อดีของการใช้คลอรีนในการฆ่าเชื้อ 

  1. ใช้งานง่าย ขั้นตอนในการใช้งานไม่ยุ่งยากซับซ้อน
  2. ราคาถูกและหาซื้อได้ง่ายตามร้านเคมีภัณฑ์ทั่วไป
  3. หากใช้ในปริมาณที่เหมาะสม ก็ไม่เป็นอันตรายต่อคนและสัตว์
  4. สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ในเวลาเพียงไม่นาน และยังคงมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อโรคอย่างต่อเนื่อง หากรักษาค่า pH ของน้ำและรักษาความเข้มข้นของคลอรีนให้อยู่ในระดับที่ถูกต้องตามที่กำหนด
     

ข้อเสียของการใช้คลอรีน 

  1. มีกลิ่นฉุนแบบสารเคมี และอาจทำให้น้ำมีรสชาติแปลก ๆ จึงควรนำน้ำที่ฆ่าเชื้อโรคด้วยคลอรีน ไปผ่านกระบวนการกรองก่อนนำมาใช้ดื่มเสมอ
  2. ไม่ควรใช้ร่วมกับสารเคมีบางชนิด (ควรอ่านคำเตือนของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ก่อนนำมาใช้งานร่วมกันทุกครั้ง) เพราะเมื่อสารเคมีบางชนิด มาสัมผัสคลอรีนแล้ว จะทำปฏิกิริยากัน และก่อให้เกิดสารพิษรุนแรง เช่น น้ำยาล้างห้องน้ำที่มีส่วนผสมของคลอรีน ไม่ควรนำมาใช้ร่วมกับน้ำยาล้างห้องน้ำบางชนิด
  3. ควรเคร่งครัดในเรื่องการรักษาระดับความเข้มข้นของคลอรีนให้ถูกต้อง ตรงตามประเภทของการใช้งานเสมอ เพราะหากใช้คลอรีนที่มีความเข้มข้นเกินกว่าที่กำหนด จะทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้

 

คลอรีนนับเป็นเคมีภัณฑ์ที่มีประโยชน์มากกว่ามีโทษ หากมีการใช้งานที่ระมัดระวังและใช้อย่างถูกต้องตามหลักการใช้คลอรีนแล้ว ก็จะสามารถใช้คลอรีนในการฆ่าเชื้อโรค หรือใช้ในกระบวนการอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในราคาที่ประหยัดกว่าการใช้เคมีภัณฑ์ชนิดอื่น

 


ติดต่อสอบถามข้อมูลหรือสั่งซื้อสินค้า

https://www.rhkchemical.com/
โทร : 02-394-0222
Line id : @rhkgroup
อีเมล: rhkgroup@hotmail.com, mktg@rhkchemical.com