น้ำ RO เพื่ออุตสาหกรรมและขั้นตอนการผลิตที่ควรรู้

ทำไม? หลายโรงงานอุตสาหกรรมจึงมีความจำเป็นต้องใช้ระบบน้ำ RO

น้ำ RO เพื่ออุตสาหกรรมและขั้นตอนการผลิตที่ควรรู้

น้ำ RO (Reverse Osmosis) คือ “น้ำกรองด้วยกระบวนการออสโมซิสผันกลับ” ที่บังคับให้น้ำไหลผ่านเมมเบรนความละเอียดสูงเพื่อตัดเกลือ แร่โลหะ ซิลิกา สารแขวนลอย สารอินทรีย์ (โมเลกุลใหญ่) และจุลินทรีย์ออก เหลือเพียงน้ำบริสุทธิ์มากเป็นพิเศษ เหมาะกับอุตสาหกรรมอาหาร/เครื่องดื่ม อิเล็กทรอนิกส์ โรงไฟฟ้า ห้องปฏิบัติการ และเภสัชกรรม

ทำไม? น้ำ RO จึงมีความสำคัญในอุตสาหกรรม

การผลิตน้ำบริสุทธิ์ RO (Reverse Osmosis) มีความสำคัญอย่างยิ่งในอุตสาหกรรม เพราะช่วยให้ได้น้ำที่มีความบริสุทธิ์สูงมาก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการควบคุมคุณภาพของผลิตภัณฑ์, เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและปกป้องอุปกรณ์จากความเสียหาย โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • ป้องกันการปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์ : ในอุตสาหกรรมที่ต้องการความสะอาดสูง เช่น การผลิตยา, อิเล็กทรอนิกส์, และอาหาร น้ำที่ปนเปื้อนด้วยไอออน, แบคทีเรีย, หรือสารเคมีเล็กน้อยก็สามารถส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ได้ การใช้น้ำ RO ที่ผ่านการกรองสิ่งปนเปื้อนออกไปได้มากกว่า 95% จึงช่วยลดความเสี่ยงเหล่านี้
  • ลดการเกิดตะกรันในเครื่องจักร : น้ำกระด้างที่มีแคลเซียมและแมกนีเซียมสูงจะทำให้เกิดตะกรันสะสมในหม้อไอน้ำ, ท่อ, และเครื่องแลกเปลี่ยนความร้อน ซึ่งเป็นสาเหตุของความเสียหายและประสิทธิภาพที่ลดลง การใช้น้ำ RO ที่ปราศจากแร่ธาตุเหล่านี้จึงช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์และลดค่าบำรุงรักษา
  • ควบคุมรสชาติและคุณภาพ : ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม การใช้น้ำบริสุทธิ์ RO ช่วยให้ได้น้ำที่มีคุณภาพสม่ำเสมอ ไม่มีกลิ่น, สีหรือรสชาติที่ไม่พึงประสงค์ ทำให้สามารถควบคุมมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ได้
  • ตรงตามมาตรฐานอุตสาหกรรม : อุตสาหกรรมหลายประเภทมีข้อกำหนดด้านคุณภาพน้ำที่เข้มงวด การใช้น้ำ RO เป็นวิธีที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลในการผลิตน้ำที่ได้มาตรฐานความบริสุทธิ์สูงตามที่อุตสาหกรรมกำหนด 

อุตสาหกรรมใดบ้าง? ที่มีความจำเป็นจะต้องใช้น้ำ RO

  • อุตสาหกรรมยาและเวชภัณฑ์ : ต้องการน้ำที่มีความบริสุทธิ์สูงเป็นพิเศษเพื่อใช้ในการผลิตยา, วัคซีนและสารละลายสำหรับฉีด
  • อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ : การผลิตเซมิคอนดักเตอร์และไมโครชิปต้องใช้น้ำบริสุทธิ์เพื่อป้องกันไม่ให้ไอออนหรืออนุภาคเล็กๆ ปนเปื้อนและทำลายวงจร
  • อุตสาหกรรมเครื่องสำอาง : น้ำบริสุทธิ์ RO มักใช้เป็นส่วนผสมหลักในผลิตภัณฑ์เพื่อป้องกันการปนเปื้อนและรักษาความเสถียรของสูตร
  • อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม : การผลิตเครื่องดื่ม, เบียร์และอาหารแปรรูปต้องใช้น้ำที่มีคุณภาพสม่ำเสมอเพื่อรักษามาตรฐานรสชาติและสุขอนามัย
  • อุตสาหกรรมโรงไฟฟ้า : น้ำบริสุทธิ์ใช้ในหม้อไอน้ำเพื่อป้องกันการสะสมของตะกรัน (Scale) ที่อาจทำให้อุปกรณ์เสียหาย 

รู้จักตัวชี้วัดสำคัญของระบบน้ำ RO

  • Recovery (อัตรากู้คืน) = สัดส่วนเปอร์เซ็นต์ของน้ำดิบที่เปลี่ยนเป็นน้ำดี (Permeate)
  • Salt rejection & Salt passage = ความสามารถเมมเบรนในการปฏิเสธ/ปล่อยให้เกลือผ่าน
  • Flux = ปริมาณน้ำดีที่ไหลผ่านเมมเบรนต่อตร.ม./ชั่วโมง (LMH)
    คำจำกัดความเหล่านี้เป็นมาตรฐานสากลของผู้ผลิตเมมเบรน และใช้ในการคุมคุณภาพการเดินระบบทุกแห่ง. (ที่มา : DuPont+1)

ขั้นตอนการผลิตน้ำ RO สำหรับอุตสาหกรรม

การผลิตน้ำบริสุทธิ์ RO สำหรับอุตสาหกรรมไม่ได้ประกอบด้วยเพียงแค่กระบวนการรีเวิร์สออสโมซิสเท่านั้น แต่ต้องมีขั้นตอนการบำบัดน้ำล่วงหน้าและขั้นตอนการบำบัดน้ำหลังการกรอง เพื่อให้ได้น้ำที่มีคุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนดและยืดอายุการใช้งานของระบบ ดังนี้

  1. การบำบัดน้ำล่วงหน้า (Pre-treatment) : ขั้นตอนนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันความเสียหายต่อเยื่อกรอง RO ซึ่งมีราคาแพงและมีความไวต่อสารปนเปื้อนบางชนิด โดยมีกระบวนการดังต่อไปนี้
    • การกรองหยาบ (Coarse Filtration) : ใช้ไส้กรองทรายหรือไส้กรองไฟเบอร์ เพื่อกำจัดสารแขวนลอยขนาดใหญ่ เช่น ตะกอน, เศษดินและสิ่งสกปรกต่างๆ
    • การกำจัดคลอรีน (Dechlorination) : ใช้ไส้กรองคาร์บอน (Activated Carbon Filter) หรือการเติมสารเคมีเพื่อกำจัดคลอรีนและสารอินทรีย์ ซึ่งคลอรีนสามารถทำลายเยื่อกรองน้ำ RO ได้
    • การปรับสภาพน้ำ (Water Softening) : หากน้ำดิบมีแคลเซียมและแมกนีเซียมสูง (น้ำกระด้าง) จะต้องผ่านกระบวนการปรับสภาพน้ำ เพื่อป้องกันการเกิดตะกรันบนผิวเยื่อกรอง
    • การกรองละเอียด (Fine Filtration) : ใช้ไส้กรองขนาด 5 ไมครอน หรือ 1 ไมครอน เพื่อกำจัดอนุภาคขนาดเล็กที่หลุดรอดจากขั้นตอนแรก เพื่อป้องกันการอุดตันของเยื่อกรอง RO

  2. การกรองด้วยระบบ RO (Reverse Osmosis) : เป็นขั้นตอนหลักที่น้ำจะถูกส่งผ่านปั๊มแรงดันสูงเข้าไปในชุดเยื่อกรอง RO โดยมีน้ำบางส่วนที่ไม่สามารถผ่านเยื่อกรองได้เรียกว่า น้ำเข้มข้น (Concentrate หรือ Brine) ซึ่งจะถูกปล่อยทิ้งหรือนำไปบำบัดต่อ ส่วนน้ำที่ผ่านเยื่อกรองออกมาคือน้ำบริสุทธิ์

    • การฆ่าเชื้อด้วยรังสียูวี (UV Sterilization) : ใช้รังสีอัลตราไวโอเลตเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัสที่อาจหลงเหลืออยู่
    • การกำจัดประจุในน้ำ (Deionization - DI) : ในอุตสาหกรรมที่ต้องการน้ำที่มีค่าความบริสุทธิ์สูงมาก (Ultra-pure water) จะใช้น้ำ RO เป็นน้ำดิบสำหรับระบบ DI เพื่อกำจัดไอออนที่เหลืออยู่ทั้งหมด
    • การปรับค่า pH : ในบางกรณีอาจมีการปรับค่า pH ของน้ำเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะทางอุตสาหกรรม

  3. การบำบัดน้ำหลังการกรอง (Post-treatment) : เพื่อให้น้ำที่ได้มีคุณภาพตามมาตรฐานที่ต้องการ ระบบน้ำ RO บางระบบอาจมีขั้นตอนเพิ่มเติมดังนี้

การดูแลระบบน้ำ RO ให้เสถียรอย่างยาวนาน 

  1. การมอนิเตอร์

    • บันทึก ฟลักซ์/การนำไฟฟ้า/รีคัฟเวอรี เป็นค่า Normalized เทียบอุณหภูมิ
    • เช็ค SDI น้ำก่อนเข้า RO เป็นประจำ และ ORP เพื่อเฝ้าคลอรีนตกค้าง (ต้องเป็นศูนย์ก่อนเข้าเมมเบรน)
    • แจ้งเตือนเมื่อ Normalized flux ตกลง และเพิ่มต่อเนื่อง (ส่อฟาวลิงก์/คอลลอยด์/ชีวภาพ) โดยมีแนวปฏิบัติตามคู่มือผู้ผลิตเมมเบรน

  2. CIP (Cleaning-in-Place) : ทำความสะอาด ~1–3 ครั้ง/ปี หากบ่อยกว่านั้น (เช่น >4–6 ครั้ง/ปี) ควรทบทวนพรีทรีตเมนต์และสภาวะเดินระบบ เพราะบ่งชี้ว่าฟูลลิ่งเกิดเร็วผิดปกติ หรือใช้ด่างทำความสะอาดคราบอินทรีย์/ไบโอฟิล์ม และใช้กรดอ่อน ละลายสเกลคาร์บอเนต/โลหะ (ให้ยึดคู่มือผู้ผลิตเมมเบรนและวัสดุระบบ) 

(ที่มา :DuPont)

 

เช็กลิสต์ออกแบบระบบน้ำ RO อุตสาหกรรม (ใช้งานได้ทันที)

  • ค่าวิเคราะห์น้ำดิบครบทุกพารามิเตอร์ที่เกี่ยวกับสเกล/ฟาวลิงก์/ออกซิเดชั่น
  • เลือกพรีทรีตเมนต์เพื่อให้ SDI ≤ 5 และ Free Cl ≤ 0.1 mg/L ก่อนเข้า RO เสมอ
  • กำหนด Recovery/Flux/Pressure ให้เหมาะกับคุณภาพน้ำและข้อจำกัดสเกล
  • หากต้องการคอนดักทีวีตี้ต่ำมาก ให้พิจารณา RO-2nd pass + EDI + ดีแกสซิฟิเคชัน
  • เตรียมระบบ CIP, จุดวัดออนไลน์ (Flow/Cond/DP/ORP/pH), และแผน Normalization
  • เลือกวัสดุ/การประกอบ/การเชื่อม/การออกแบบถังเก็บ–ท่อจ่าย ให้ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อได้ง่าย โดยเฉพาะงานยา/อาหาร
  • วางแผนบำบัดน้ำเข้มข้น (คอนเซนเทรต) ตามข้อกำกับด้านสิ่งแวดล้อม

 

น้ำ RO (Reverse Osmosis) คือน้ำที่ผ่านกระบวนการกรองด้วยเยื่อเมมเบรนขนาดเล็กพิเศษ  เทคโนโลยีนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมที่ต้องการน้ำบริสุทธิ์สูง เช่น การผลิตยา, อิเล็กทรอนิกส์และอาหาร โดยมีขั้นตอนการผลิต,การกรองด้วยระบบ RO, และการบำบัดน้ำหลังการกรอง เพื่อให้ได้น้ำที่มีคุณภาพตามมาตรฐานและยืดอายุการใช้งานของระบบให้ยาวนานที่สุด ซึ่งการใช้น้ำบริสุทธิ์ RO ช่วยป้องกันการปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์, ลดการเกิดตะกรันในเครื่องจักรและรักษามาตรฐานการผลิตให้คงที่สำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ ได้ นั่นเอง

ข้อมูลอ้างอิง

 

สำหรับบริษัทที่กำลังมองหาระบบน้ำ RO คุณภาพสูงและครบวงจร บริษัท อาร์ เอช เค กรุ๊ป จำกัด (RHK Group Co., Ltd.) ถือเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านระบบน้ำอุตสาหกรรมในประเทศไทย ตั้งแต่ระบบขนาดเล็กไปจนถึงระบบขนาดใหญ่ ครอบคลุมการใช้งานในหลากหลายภาคส่วน เช่น โรงงานผลิตอาหารและเครื่องดื่ม, โรงพยาบาล, และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์

หากคุณสนใจติดตั้งหรือปรึกษาระบบน้ำ RO สำหรับธุรกิจของคุณ สามารถติดต่อ บริษัท อาร์ เอช เค กรุ๊ป จำกัด เพื่อรับคำแนะนำและข้อเสนอที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณได้โดยตรง 


สนใจน้ำ ROติดต่อได้ที่

บริษัท อาร์ เอช เค กรุ๊ป จำกัด
189 ม.10 ต.สำโรงใต้ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ 10130 

โทร : 02-394-0222 , 02-757-9961 แฟ็กซ์ 02-394-0223 
อีเมล: rhkgroup@hotmail.com , mktg@rhkchemical.com

  tel:02-394-0222